“Advertising with ideas are remembered than advertising without ideas”
เรื่อง–ดลชัย บุณยะรัตเวช, brandvoice2001@hotmail.com
จุดที่ทำให้งานโฆษณาเป็นที่จดจำฝังอยู่ในใจผู้ดูนั้น เราต่างก็รู้สึกว่า อาจจะเป็นเพราะความพิเศษของสินค้า.. ความน่าสนใจของเรื่องราว ความสนุกสนานบันเทิงของการนำเสนอ… แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่มีพลังอย่างแท้จริง นั่นก็คือ Idea … หรือความคิดสร้างสรรค์หลักของงานโฆษณาแต่ละชิ้นนั่นแหละครับ คือหัวใจที่สร้างความจดจำให้กับการโฆษณา ถ้าจะให้คำจำกัดความของคำว่า “ความคิดสร้างสรรค์” ในความหมายของนักโฆษณา… ผมว่า Creativity หรือความคิดสร้างสรรค์ คือความสามารถที่จะ ฝ่าด่านความซ้ำ จำเจ และธรรมเนียมนิยมเดิมๆ …ซึ่งช่วยสร้างให้ communication มีความสด…ใหม่…น่าสนใจ และทันสมัยอยู่เสมอ
อะไรคือตัวจุดชนวนให้กับ Breakthrough Idea คำตอบก็คือ Breakthrough Strategy…กลยุทธ์ที่เฉียบคมด้วยการมีมุมมองใหม่ที่คม ๆ ของ Brand ซึ่ง disrupt หรือเฉือนตัวออกจากความจำเจใน category และใน market และต้องมีคมในการเจาะทะลุ แทงใจผู้บริโภคด้วยความเข้าใจลึกซึ้งใน consumer insights ซึ่งจะเป็นอาวุธสำคัญของ Brand เรียกกันว่า Brand Idea หรือกลยุทธ์หลักของแบรนด์
ก่อนที่จะกลายเป็นงานสร้างสรรค์ใดๆ กลยุทธ์ที่ดีก็คือการเริ่มต้นของไอเดีย กล่าวกันในหมู่นักโฆษณาว่าหากหากลยุทธ์ที่คมจริงได้พบนั้นหมายความว่า คุณค้นพบ Brand Idea หรือ ไอเดียหลักของ Brand ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในขั้นตอนครีเอทีฟ ทั้งในด้านการคิด idea ในงานโฆษณาและวิธีการ นำเสนอ (Execution)
ตัวอย่างเช่น Brand Idea หรือกลยุทธ์ของบริษัทสีทาบ้าน “Taubmans” ที่ Y&R Sydney คิดขึ้นมาด้วยมุมมองใหม่ “สี…เปลี่ยนความรู้สึกคุณได้” … “Colour changes the way you feel” เป็น creative strategy ที่เปิดมุมและเหลี่ยมคมแบบใหม่โดยไม่จำเจกับความสวยงาม สมจริงของสีทาบ้านที่เป็นแบบฉบับเดิมๆ ใน category นี้ก็เป็นการจุดประกายความคิดให้กับขบวนการสร้างสรรค์ให้ไอเดียในภาพยนตร์โฆษณาและชิ้นงานอื่นๆ ที่ตามมาใน campaign นี้
ความแปลกใหม่ เนื้อเรื่องในหนังง่ายๆ คือ หนุ่มสาวเดินเข้ามาสู่เรือนหอที่กำลังตกแต่ง ทาสี โดยเห็น ช่างทาสีชายอ้วนๆ 2 คน กำลังทาสีห้องเป็นสีแดงที่ร้อนแรง ทันใดนั้นด้วยพลังแห่งสี ทำให้หนุ่มสาวทั้งสองเกิดอารมณ์รักขึ้นมากะทันหันแบบกอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างอดใจไม่ไหว ในที่สุดแม้แต่ช่างทาสีทั้ง 2 คน ก็ทนอำนาจแห่งสีแดงไม่ได้ หนังจบด้วยช่างทั้งสองแอบจับมือกันอย่างดูดดื่มเช่นกัน
เห็นไหมครับ หาก Creative Strategy ไม่ช่วยเปิดมุมใหม่ด้วยคมใหม่ๆ-ไม่มีวันที่งานสร้างสรรค์หรือไอเดียของงานโฆษณาจะมีความโดดเด่น สดใหม่ หรือแตกต่างออกไป เพราะอาจวนเวียนพูดอยู่ในเรื่องแบบ convention เดิมๆ และคงหนีไม่พ้นเรื่องสีสวยสดใสเหมือนจริง Brand Idea…ต้องทำจากเรื่องยากให้เป็น เรื่องง่าย
การทำองค์ประกอบที่ซับซ้อนจากตัวแบรนด์ของ ผู้บริโภคและตลาดแข่งขันให้เป็นกลยุทธ์ที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนและที่สำคัญจะต้องมีแรงสะกิด ปลุกและจุดประกายความคิดของครีเอทีฟไอเดียต่างๆ ที่จะตามมา
ถ้าถามว่าอะไรคือ Brand Idea หรือกลยุทธ์ของแบรนด์ที่ง่าย มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เป็นเหมือนบรมครูของครีเอทีฟแห่ง Young & Rubicam ท่านชื่อ Leon Berger ได้เคยสอนผมไว้ว่า ลองดูโฆษณาอะไรก็ได้ แล้วถามตัวเองว่าโฆษณานี้ promise อะไรอยู่ ถ้ามีคำตอบให้กับตัวเองได้ง่ายๆ ทันที แม้เราจะไม่ทราบที่มาที่ไปของแคมเปญนั้น ..นั่นแหละหมายถึง Strategy หรือกลยุทธ์ที่ง่าย
เขาบอกผมว่า ลองใช้ประโยคประมาณว่า “This commercial promises that …” แล้วจะช่วยให้เราพบ คำตอบได้ง่ายขึ้น หากหาเท่าไหร่ก็ไม่พบนั่นก็คงหมายถึงโฆษณาชิ้นนั้นมี Communication Strategy ที่ไม่ง่ายพอ ซึ่งจะเป็นผลโยงไป ถึง Creative Idea ที่ไม่รู้เรื่อง และท้ายสุด โฆษณานั้นก็ไม่บรรลุตามเป้าหมาย
ถ้ายังจำหนังโฆษณากางเกงยีน Wrangler ที่สาวฟาด กระทืบกางเกงยีนด้วยความหึงหวง หลังค้นเจอเบอร์โทรศัพท์พร้อมยกทรงของสาวอื่นในกระเป๋ากางเกงขณะซักผ้า ถ้าจะลองเดา strategy ของงานนี้ก็คือ หนังเรื่องนี้ promise “Toughness” หรือกางเกงยีนที่ทนทาน สมบุกสมบัน…. เห็นไหมครับ กลยุทธ์ง่าย คำตอบของเราจะออกมาอย่างเข้าใจง่ายๆ เช่นกัน
Creative Idea ต้องง่ายเช่นกัน เมื่อมีชนวนจุดประกายความคิดของขบวนการสร้างสรรค์ด้วยการมี Simple Strategy แล้ว Creative idea จะต้องแปรความคิดหลักนี้ให้อยู่ในรูปแบบของงานสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ สด และร่วมสมัย มีเสน่ห์ แต่ขณะเดียวกันควรจะรักษาความ “ง่าย” ได้ ไม่ต้องพยายามจะซับซ้อนหรือพยายามจะฉลาดจนไม่รู้เรื่อง
ผู้ใหญ่หลายท่านในวงการนี้สอนผมอีกว่า จริงอยู่… ครีเอทีฟจะต้องมีจินตนาการ แต่ Imagination นั้นจะต้องมีระยะทางไม่ห่างเกินไปจากความเป็นจริง มิเช่นนั้นงานครีเอทีฟของเราจะขาดความจริงของมนุษย์ และความ น่าเชื่อถือ ในที่สุดก็คือไร้พลังและเสน่ห์ดึงดูดใจที่แท้จริง
Leon สอนผมอีกว่า คราวนี้จะรู้ได้ยังไงว่า Creative Idea ของโฆษณาแต่ละชิ้นง่ายและ simple จริง… เขาบอกว่า ลองใช้ประโยค “This commercial shows …” อย่างกางเกงยีน Wrangler ก็คือ This commercial shows torture … การทนมานกางเกง และนี่ก็คือ idea ของภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากกลยุทธ์ “Toughness” ที่ simple ทั้งคู่ครับ
ขอฝากคำสอนของผู้ใหญ่อีกครั้ง
“Good Advertising is;
* Centered around a single thought
* rooted in simplicity
* uncomplicated
* reduced to its essence”
PS. Idea Strategy นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างอย่างยิ่ง ในการสร้างแนวทางการบริหารที่ “แตกต่าง” และ “โดดเด่น” ไม่ว่าจะเป็นในวงการโฆษณา หรือในการทำงานในวงการอื่นๆ